ปลูกผม LONG HAIR เทคนิค FUE : ผมยาวทันที

          การปลูกผมแบบ Long hair fue คือ การปลูกผมโดยการรวบรวมผมยาวจากบริเวณที่บริจาคโดยไม่ต้องโกนบริเวณนั้น โดยวิธีนี้จะคัดเลือกรากผมที่แข็งแรงที่สุด รวบรวมอย่างระมัดระวัง แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ล้าน โดยคำนึงถึงทิศทางการเจริญเติบโตของเส้นผมตามธรรมชาติ

ปลูกผม LONG HAIR FUE เทคนิค (Follicular Unit Extraction)

           การปลูกผมแบบยาว (Long Hair FUE) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ปลูกผมโดย ไม่ต้องโกนผม ก่อนทำ โดยแพทย์จะเก็บ กราฟต์เส้นผมจากด้านหลังหรือข้างศีรษะ คัดเลือกรากผมที่แข็งแรง แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบาง โดยคำนึงถึงทิศทางการงอกของเส้นผม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของการปลูกผม LONG HAIR

          ไม่ต้องโกนผม เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้คนรอบข้างสังเกตเห็น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เส้นผมเข้ากับผมเดิมได้ทันที รอยแผลเป็นน้อย เนื่องจากใช้เทคนิค FUE ที่เป็นการเจาะรากผมทีละเส้น เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง

กระบวนการปลูกผม LONG HAIR

        เก็บกราฟต์ผม จากบริเวณท้ายทอยโดยไม่ต้องโกนผม คัดแยกกราฟต์ที่แข็งแรงปลูกลงบนศีรษะ แนวผมเดิมฟื้นตัวเร็ว และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ราคาปลูกผม LONG HAIR

          ราคาปลูกผมต่อกราฟท์ โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 100 – 200 บาทต่อกราฟท์ ขึ้นอยู่กับคลินิกและเทคนิคที่ใช้​ บางคลินิกคิดค่าบริการที่ กราฟท์ละ 160 บาท สำหรับเทคนิค Long Hair FUE ​บางแห่งอาจมีราคาสูงถึง กราฟท์ละ 200 บาท สำหรับเทคนิคเดียวกัน ​

ข้อควรรู้

          เส้นผมที่ปลูกใหม่จะหลุดร่วงภายใน 2-4 สัปดาห์แรก ก่อนงอกใหม่ตามปกติควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนตัดสินใจ เพื่อประเมินสภาพเส้นผมและความเหมาะสม

ปลูกผม LONG HAIR ผมยาวได้อย่างไร?

การทำ FUE สำหรับผมยาว (Long Hair FUE) เป็นเทคนิคที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องโกนผม โดยผมในบริเวณที่จะนำไปปลูก ถูกเก็บรวบรวมในสภาพผมยาว จากนั้นนำไแช่ในน้ำยาแช่กราฟต์ ปลูกในบริเวณที่ผมร่วงหรือศีรษะล้าน โดยขั้นตอนการผ่าตัดและดูแลหลังการผ่าตัดจะเหมือนกับการปลูกผม FUE แบบดั้งเดิม

          บริเวณที่นิยมปลูกผมยาวมากที่สุดคือด้านขวาและซ้ายของหน้าผาก รวมถึงบริเวณด้านบนของศีรษะ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาผมร่วงและศีรษะล้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนการทำ Long Hair-FUE เริ่มจากการทำมาร์คเครื่องหมายบริเวณที่ต้องการปลูกผมด้วยปากกาทางการแพทย์ จากนั้นจะทำการเก็บกราฟต์ผมประมาณ 500-1,000 กราฟต์จากบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผมที่แข็งแรงและไม่ร่วงง่าย จากนั้นจึงนำรากผมที่ถาวรทางพันธุกรรมเหล่านี้ไปปลูกในบริเวณศีรษะล้านที่ได้ทำเครื่องหมายไว้ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมโดยไม่ต้องโกนผมให้สั้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็วหลังการทำหัตถการ

เทคนิค LONG HAIR-FUE : ผลลัพธ์ที่ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ

          เมื่อพูดถึงการปลูกผม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงวงการนี้ไปอย่างมาก ทำให้ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านสามารถฟื้นฟูเส้นผมได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมคือ การปลูกผมแบบ FUE สำหรับผมยาว (Long Hair Follicular Unit Extraction – FUE)

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ เทคนิค FUE สำหรับผมยาว ว่าแตกต่างจากวิธีอื่นอย่างไร รวมถึงข้อดีของเทคนิคนี้ การเลือกศัลยแพทย์และคลินิกที่เหมาะสม ขั้นตอนการรักษา การดูแลหลังปลูกผม และผลลัพธ์ที่คาดหวัง พร้อมทั้งเคล็ดลับการดูแลเส้นผมในระยะยาว เป้าหมายของเราคือช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมที่สุดกับเส้นทางการปลูกผมของคุณ

การปลูกผม LONG HAIR-FUE คืออะไร?

          Follicular Unit Extraction (FUE) เป็นขั้นตอนการปลูกผมแบบช้ำน้อยที่สุด เกี่ยวข้องกับการดึงรากผมที่แข็งแรงออกจากบริเวณที่นำไปปลูก โดยทั่วไปคือด้านหลังหรือด้านข้างของศีรษะ แล้วปลูกถ่ายไปยังบริเวณที่ผมร่วงหรือบาง ซึ่งแตกต่างจากเทคนิคการเก็บผมแบบแถบในสมัยก่อน FUE จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเชิงเส้น และให้ความแม่นยำที่ยอดเยี่ยมในการดึงรากผมออก ด้วยการใช้เครื่องมือไมโครเซอร์จิคัล รากผมแต่ละรากจะถูกดึงออกจากบริเวณที่ทีละราก ทำให้รากผมยังคงสภาพสมบูรณ์สำหรับการปลูกถ่าย

LONG HAIR FUE แตกต่างจากวิธีการปลูกผมแบบอื่น

เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ไม่ต้องผ่าตัดไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเป็นเส้นยาว และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ต่างจากวิธีการปลูกผมแบบ ยกมาปลูกทั้งแถบ (Strip Harvesting) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Follicular Unit Transplantation (FUT) ซึ่งต้องตัดแถบหนังศีรษะออกจากบริเวณที่ผมดก ทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้ ในขณะที่ FUE เป็นเทคนิคที่ใช้การเจาะกราฟต์ผมออกจากหนังศีรษะแบบทีละกอ จึงไม่มีแผลเป็นเป็นเส้นยาว ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไว้ผมสั้นหรือรวบผมขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผล

ข้อดีและข้อเสียของการปลูกผม LONG HAIR

ข้อดี:

• ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นใหญ่ – การปลูกผมแบบ FUE จะทิ้งแผลเป็นขนาดเล็กเป็นจุดๆ ซึ่งแทบมองไม่เห็น ทำให้สามารถตัดผมสั้นหรือจัดแต่งทรงได้อย่างมั่นใจ
• แผลหายเร็ว ฟื้นตัวไว – เนื่องจากเป็นวิธีที่มีการบุกรุกน้อยกว่า FUT ทำให้ลดความรู้สึกไม่สบายตัว เจ็บน้อยกว่า และใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า
• ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ – การปลูกผมทีละเส้นช่วยให้กระจายตัวได้อย่างแนบเนียน กลมกลืนกับแนวผมเดิม

ข้อเสีย:

• ใช้เวลาทำนานกว่า – การสกัดและปลูกถ่ายเส้นผมทีละเส้นต้องใช้เวลา จึงเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานกว่าวิธี FUT
• มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า – เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความละเอียดสูงและปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ค่าใช้จ่ายจึงมักสูงกว่าวิธีอื่น
• จำนวนเส้นผมที่สามารถนำมาใช้มีจำกัด – การปลูกผมแบบ FUE อาจมีข้อจำกัดขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเส้นผมในบริเวณที่นำมาปลูก หากเส้นผมบริเวณดังกล่าวไม่เพียงพอ อาจไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตามที่ต้องการ

สรุป
          FUE เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมโดยไม่มีรอยแผลเป็นใหญ่ ฟื้นตัวเร็ว และให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ แต่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย เวลาที่ใช้ในกระบวนการ และข้อจำกัดด้านจำนวนกราฟต์ที่จะสามารถใช้ได้