ยาปลูกผม หรือ ปลูกผมถาวร เลือกแบบไหนดีกว่ากัน
สำหรับใครที่กำลังเผชิญปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือเริ่มหัวล้าน คำถามหนึ่งที่มักเกิดขึ้นก็คือ “จะใช้ ยาปลูกผม หรือ ปลูกผมถาวร ไปเลย?” บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของทั้งสองวิธี เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับตัวเอง ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน ไม่เพียงกระทบภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจของใครหลายคน ด้วยเหตุนี้ทางเลือกในการแก้ปัญหาจึงมีหลากหลาย หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่มักเกิดขึ้นคือ “ควรใช้ยาปลูกผมต่อเนื่อง หรือควรลงทุนปลูกผมถาวรเลยดี?” บทความนี้จะพาไปเจาะลึกแต่ละวิธี พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ยาปลูกผม: วิธีไม่ผ่าตัด เหมาะกับระยะเริ่มต้น
“ยาปลูกผม” หมายถึง ยาประเภททา หรือรับประทาน ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะ หรือยับยั้งฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของผมร่วงในผู้ชาย
สารสำคัญที่พบในยาปลูกผมทั่วไป ดังนี้ :
Minoxidil (ไมน็อกซิดิล) : ช่วยกระตุ้นรูขุมขนให้เส้นผมงอกใหม่ เดิมใช้เป็นยาลดความดันโลหิต แต่พบว่าเมื่อใช้ภายนอกที่หนังศีรษะสามารถช่วยขยายหลอดเลือดใต้หนังศีรษะ ทำให้เลือดและสารอาหารไหลเวียนดีขึ้น ช่วยกระตุ้นรูขุมขนให้เส้นผมงอกใหม่ มักใช้ในรูปแบบน้ำหรือโฟม ทาเฉพาะที่
เหมาะสำหรับ : ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic Alopecia)
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น : คันหนังศีรษะ รังแคหรือระคายเคือง/ ผมร่วงมากขึ้นในช่วงแรก (ช่วง “Shedding Phase”) ก่อนจะดีขึ้น
Finasteride (ฟิแนสเตอไรด์) : ลดฮอร์โมน DHT ที่ทำให้ผมร่วงในผู้ชาย เป็นยารับประทานที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha reductaseลดการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ให้เป็น DHT (Dihydrotestosterone)DHT เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผมร่วงในผู้ชาย
เหมาะสำหรับ : ผู้ชายเท่านั้น (ไม่แนะนำให้ผู้หญิง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ใช้)
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น : สมรรถภาพทางเพศลดลง/ภาวะซึมเศร้า (ในบางราย)/ ลดปริมาณน้ำอสุจิSaw Palmetto : เป็นสารสกัดจากพืชธรรมชาติ มีฤทธิ์คล้าย Finasteride คือยับยั้งการสร้าง DHT แต่ในระดับที่อ่อนกว่ามีความปลอดภัยสูงกว่าในแง่ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น: พบได้น้อยเช่น ปวดหัว หรือแน่นท้องเล็กน้อยBiotin : วิตามินกลุ่ม B (B7) ช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผม เล็บ และผิวหนังช่วยในการเผาผลาญกรดไขมันและกรดอะมิโน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
ผลข้างเคียง : ปลอดภัยมากเมื่อใช้ตามปริมาณที่แนะนำ หากใช้เกิน อาจรบกวนผลการตรวจเลือดบางประเภท- Zinc : อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงเส้นผม แร่ธาตุที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกัน การเจริญเติบโต และการแบ่งเซลล์ ช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะและสนับสนุนการสร้างเส้นผมใหม่
ผลข้างเคียง : ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผิวแห้ง ลอกง่าย
ข้อดี : ยาปลูกผม
ราคาถูกกว่าการปลูกผมถาวร
เข้าถึงง่าย ใช้เองได้ที่บ้าน
เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มผมบาง
ข้อจำกัด : ยาปลูกผม
ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอ หากหยุดใช้ ผมอาจร่วงกลับมาอีก
เห็นผลช้า โดยปกติ 3-6 เดือน
อาจมีผลข้างเคียง เช่น ผื่นแดง ผิวหนังลอก หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (ในบางราย)
ปลูกผมถาวร : ทางเลือกระยะยาว เห็นผลจริง
การ “ปลูกผมถาวร” คือการศัลยกรรมย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอยที่แข็งแรง ไปยังบริเวณที่ผมบางหรือหัวล้าน เช่น เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction), D-H-I (Direct Hair Implant) หรือ FUT (Follicular Unit Transplantation)
ข้อดี: ปลูกผมถาวร
เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เห็นผลถาวร
เส้นผมที่ขึ้นใหม่สามารถตัด ซอย ทำสีได้ตามปกติ
ไม่ต้องใช้ยาต่อเนื่องหลังทำ (ยกเว้นบางกรณี)
ข้อจำกัด: ปลูกผมถาวร
ราคา ปลูกผมถาวร ค่อนข้างสูง (หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท)
ต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทาง
- มีช่วงพักฟื้น 1-2 สัปดาห์ และอาจมีอาการบวม/ตกสะเก็ดในช่วงแรก
เปรียบเทียบ : ยาปลูกผม หรือ ปลูกผมถาวร
รายการ | ยาปลูกผม | ปลูกผมถาวร |
ค่าใช้จ่าย | ปานกลาง | ค่อนข้างสูง |
ผลลัพธ์ | ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง | ถาวร |
ระยะเวลารักษา | นาน (3-6 เดือนขึ้นไป) | 1 ครั้ง ประมาณ 6-12 เดือน |
ความสะดวก | ใช้เองที่บ้าน | พบแพทย์+ผ่าตัดเล็ก |
ความเสี่ยง | อาการแพ้ ยาไม่ออกฤทธิ์ | บวมแดง รอยแผล ติดเชื้อ |


📚 อ้างอิง:
International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS). Hair Transplant Basics
National Center for Biotechnology Information. Finasteride and its effects
- American Academy of Dermatology Association. Minoxidil
Mayo Clinic. Hair transplant surgery